การ เช่ารถบรรทุกเทรลเลอร์ รถที่เรามักจะคุ้นเคยกับชื่อที่เรียกว่า รถบรรทุก หรือรถพ่วง รถที่ใช้ในงานจำพวกงานก่อสร้างที่ทำหน้าที่ขนพวกอุปกรณ์ขนาดใหญ่ วัสดุก่อสร้าง หิน ดิน ทราย ปริมาณมากจึงทำให้ต้องใช้รถที่สามารถบรรทุกไปได้ ทำให้ต้องใช้รถเทรลเลอร์ในการขน และรถบรรทุกรับจ้าง รถเทรลเลอร์ รับจ้าง รถหกล้อขนของ
รถบรรทุกเทรลเลอร์ลำปาง
รถเทเลเลอร์รับจ้างลำปาง
รถเทเลอร์รับจ้างลำปาง
รถบรรทุกรับจ้างลำปาง
รถเทรลเลอร์รับจ้างลำปาง
รถเทรลเลอร์หัวลากลำปาง
รถเทรลเลอร์6ล้อมือสองลำปาง
รถเทรลเลอร์12ล้อลำปาง
รถพ่วงเทรลเลอร์ลำปาง
รถรับจ้างบรรทุกเทรลเลอร์ลำปาง
รถ6ล้อขนของลำปาง
รถขนของ6ล้อลำปาง
รถหกล้อขนของลำปาง
รถพ่วงรับจ้างลำปาง
รถเฮี๊ยบให้เช่าราคาถูกลำปาง
รถบรรทุก6ล้อรับจ้าง
จ้างรถ6ล้อลำปาง
รถบรรทุกรับจ้างขนของ
รถบรรทุกรับจ้าง10ล้อลำปาง
รถสิบล้อเฮี๊ยบลำปาง
รถบรรทุกเล็กรับจ้างลำปาง
รถบรรทุกย้ายบ้านลำปาง
รถบรรทุกให้เช่าลำปาง
รถบรรทุกย้ายของลำปาง
รถรับจ้างขนของ10ล้อลำปาง
สอบถามคิวรถ






รู้ก่อนใช้บริการ ประเภทของรถเครน มีกี่ประเภท แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร
1. รถเครน คืออะไร
เรามาทำความรู้จักรถเครนกันก่อนน่ะครับ เครน หรือจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าปั้นจั่น ซึ่งหมายถึง เครื่องจักรกลที่ใช้ยกสิ่งของขึ้นลงตามแนวดิ่ง และเคลื่อนย้ายสิ่งของในลักษณะแขวนลอยไปตามแนวราบ ซึ่งเหมาะในการใช้งาน ที่ต้องใช้งานในที่สูงๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้เอง ถึงขีดจำกัดของคนที่สามารถจะทำได้ จำเป็นต้องมีตัวช่วย อย่างรถเครนเป็นตัวช่วยที่ช่วยได้ดีมาก หากงานที่ต้องใช้พื้นที่สูงๆ ไม่มีตัวช่วยไหน ที่เหมาะไปกว่ารถเครนอีกแล้วครับ
โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า รถเครนนั้นเหมาะใช้งานในการก่อสร้าง ซึ่งมันก็ใช่ครับ แต่รถเครนนั้นยังสามารถใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกมาก อย่างเช่น ใช้งานในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุการณ์ต่างๆ ได้ ใช้งานด้านการแสดงหนังหรือละครต่างๆ เพื่อได้มุมภาพสวยๆ สร้างจุดขายของการแสดง แม้แต่ใช้ในการทำความสะอาดอาคารสูงๆ เองก็ตาม ก็ยังสามารถใช้ประโยชน์ยังได้เลยครับ และยังใช้งานในด้านอื่นๆ อีกมากมาย
2. รถเครนมีกี่ประเภท
รถเครนจะมีอยู่ด้วยกัน 5 ประเภท ได้แก่
รถเครนบรรทุก ( Truck Crane) จะมีลักษณะคล้ายๆ รถบรรทุกเลยครับ แม้บางคันจะมีลักษณะที่แตกต่างกันไปบ้าง หากถามว่ามีความแตกต่างยังไงกับเครนติดรถบรรทุก ซึ่งตอบได้เลยว่า จะเป็นรถบรรทุกเช่นกันครับ สามารถแยกข้อแตกต่างได้ง่ายๆ ให้สังเกตุตรงที่เครนที่ติดอยู่บนรถบรรทุก หากมีเครนมีขนาดใหญ่ และเครนสามารถยืดได้ยาวอีก จะเป็นรถเครนประเภท รถเครนบรรทุก และหากมีเครนที่มีขนาดเล็ก หรือไม่สามารถยืดได้ยาวอีก จะเป็นประเภท เครนติดรถบรรทุกครับ
รถเครนสองประเภทนี้ ถึงแม้จะใช้รถบรรทุกที่มีลักษณะที่คล้ายๆ กัน แต่เปรียบเทียบด้านการใช้งานแล้ว จะมีลักษณะการใช้งานจะแตกต่างกันครับ ซึ่งรถเครนบรรทุกจะชำนาญด้านการใช้งานด้านความสูง ส่วนเครนติดรถบรรทุก จะชำนาญการขนส่งสินค้ามากกว่าครับ
รถบรรทุกจะมีอยู่หลายแบบ เช่น 6 ล้อ , 10 ล้อ ,12 ล้อ แน่นอนว่าขนาดเครนที่อยู่ด้านบน จะมีขนาด และข้อจำกัดในการใช้งานที่แตกต่างกัน ส่วนการขับเคลื่อนนั้น จะมีลักษณะเหมือนรถบรรทุกทั่วไป ซึ่งจะเหมาะการขับเคลื่อนบนถนนเรียบ สามารถวิ่งตามงานต่างๆ ได้ครับ
2.2 รถเครนตีนตะขาบ
รถเครนตีนตะขาบ (Crawler Crane) หากสังเกตดีๆ จะเห็นได้ว่ามีลักษณะคล้ายกับรถแม็คโครที่ใช้ตักดิน เป็นอย่างมากแต่รถเครนตีนตะขาบจะความแตกต่างจากรถแม็คโครคือส่วนแขนบูมและตะขอของรถเครน ส่วนอื่นๆ จะมีความคล้ายรถแม็คโครอยู่บ้าง และเมื่อเปรียบเทียบรถเครนประเภทอื่นๆ แล้วจะเห็นได้ว่ารถเครนตีนตะขาบจะมีลักษณะเด่นๆ ที่เห็นได้ชัดส่วนของตีนตะขาบแหละครับ ส่วนรถเครนประเภทอื่นส่วนใหญ่จะเป็นล้อยางครับ
ถ้ามองในมุมการใช้งานแล้ว รถเครนตีนตะขาบสามารถเข้าถึงทุกสภาพพื้นที่ แม้พื้นที่จะมีเนิน พื้นที่ไม่เท่ากัน ถ้าเป็นรถเครนประเภทอื่นจะทำงานค่อนข้างลำบากหน่อย แต่รถเครนตีนตะขาบไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเขาอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่รถเครนประเภทนี้ด้อยกว่ารถเครนประเภทอื่นคือ ระยะการเดินทาง สามารถเดินไกลได้แค่ 100 – 500 เมตร หากจะอยากจะไประยะทางที่ไกลกว่านั้นจำเป็นต้องมีตัวช่วยอย่างเทรลเลอร์หาง low – bed สำหรับขนส่งในระยะทางไกลครับ
2.3 รถเครน 4 ล้อ
รถเครน 4 ล้อ (Rough terrain cranes) จะมีลักษณะคล้ายกับรถเครนแบบรถเครนบรรทุก (Truck Crane) แต่จะมีล้อเพียง 4 ล้อ(ใหญ่) เท่านั้น ลำตัวของรถเครน 4 ล้อ จะสั้นกว่ารถเครนบรรทุกมาก และแขนเครนนั้นจะยาวกว่าลำตัว สามารถจำได้ง่ายๆ ของส่วนของล้อ หากเจอรถเครนที่มี 4 ล้อ นั้นแหละเป็นประเภทรถเครน 4 ล้อครับ
หากพูดถึงด้านการใช้งาน รถเครน 4 ล้อ สามารถขับเคลื่อนบนพื้นดินอ่อนได้ แต่พื้นดินอ่อนมากเกินไปก็ไม่สามารถวิ่งได้ครับ รถเครนประเภทนี้ สามารถวิ่งผ่านในที่ซอกแซกเข้าพื้นที่แคบๆ ได้ดีเลยครับ ส่วนระยะทางที่วิ่งได้ ประมาณ 10 กิโลเมตร หากมากกว่านั้น จะส่งผลส่วนของชุดเกียร์ได้ อาจถึงพังได้เลยครับ ถ้าจำเป็นที่ต้องไประยะทางไกลกว่า 10 กิโลเมตร จำเป็นต้องมีตัวช่วยในการขนส่ง ขนย้ายอย่างรถเทรลเลอร์ low-bed สามารถแก้ปัญหาขีดจำกัดระยะทางของรถเครน 4 ล้อได้ครับ
2.4 เครนติดรถบรรทุก
เครนติดรถบรรทุก (Truck Loader Crane หรือ cargo crane) ในภาษาชาวบ้านจะเรียกว่า รถเฮี๊ยบ จะมีลักษณะเหมือนรถบรรทุกทั่วไปเลยครับ แต่จะมีเครนขนาดเล็กติดอยู่ด้านหลังของรถ เครนในรูปแบบนี้จะถูกออกแบบไว้สามารถติดตั้งบนรถบรรทุกได้ทุกรุ่นเลยครับ รถเครนประเภทนี้ใช้สำหรับการขนส่ง และบรรทุกสินค้าเท่านั้น ไม่สามารถทำเหมือนรถเครนประเภทอื่นๆ ได้ครับ
ถ้าพูดด้านการใช้งานแล้ว ซึ่งผมบอกไปแล้วน่ะครับว่า รถเครนประเภทนี้เหมาะสำหรับการขนส่ง และบรรทุกสินค้าเท่านั้น สามารถยกของจากท้ายรถบรรทุกลงไปจากรถ หรือยกขึ้นมาที่ท้ายรถได้ ส่วนของระยะทางนั้น สามารถขนส่งในระยะทางไกลๆ ได้ครับ ขนส่งได้รวดเร็ว ด้วยขนาดเครนติดรถบรรทุกไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก สามารถเดินทางได้สะดวกครับ
2.5 รถเครนแบบ All Terrain Cranes
รถเครนแบบ ( All Terrain Cranes ) จะเป็นรถเครนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดารถเครนทั้งหลายเลยครับ หากเปรียบเทียบกับรถเครนบรรทุก รถเครนประเภทนี้จะใหญ่กว่าครับ ซึ่งจะมีมากกว่า 12 ล้อด้วยซ้ำ และความสามารถด้านการทำงานก็จะเหนือกว่า อย่างเช่น ขีดจำกัดความสูง หรือความแข็งแรงแขนเครน พูดง่ายๆ คือรถเครนประเภทนี้จะมีประสิทธิภาพมากกว่าครับ
ส่วนเรื่องการใช้งานนั้น สามารถทำงานได้หลายรูปแบบ แถมมีประสิทธิภาพมากกว่า รถเครนประเภทอื่นๆ อีกครับ แม้จะเป็นงานแบบไหนก็สามารถทำได้แน่นอนครับ พื้นที่จะขรุขระ สมบุกสมบัน มีล้อมากกว่า และขับเคลื่อนทุกล้อ เพราะรถคันใหญ่จึงมีปัญหาเรื่องเลี้ยวมุมแคบยาก ระยะการเดินทางได้ไกลไม่มีข้อจำกัดครับ
3.สรุป
รถเครนแต่ละประเภทจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน อาจมีบางส่วนที่คล้ายๆ อยู่บ้าง แต่สามารถแยกออกได้ว่า รถเครนแต่ละประเภทเป็นยังไง แยกออกได้ไม่อยากเลยครับ ถ้าหากสังเกตุเห็นดีๆ เพราะแต่ละประเภทจะมีจุดเด่น และข้อจำกัดในการใช้งานที่แตกต่างกัน พยายามเลือกใช้ให้เหมาะกันงานที่จะทำให้ได้มากที่สุด และให้คุ้มค่าที่สุด คุณสามารถเลือกเองได้ไม่ยากครับ ซึ่งเนื้อหาที่ผมได้เตรียมเอาไว้ จะพูดในเรื่อง ประเภทของรถเครน เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผมได้แยกแยะแล้วว่า รถเครนแต่ละประเภทเป็นในลักษณะใด จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น พยายามศึกษาดูน่ะครับ แน่นอนว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคุณได้แน่นอนครับ
สอบถามคิวรถ






การคมนาคมขนส่ง
ทางบก
ทศวรรษ 2500 ที่เริ่มมีการขยายตัวการของทางหลวง อันได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาโดยมีเหตุผลเรื่องความมั่นคงแฝงอยู่เบื้องหลังการเดินทางดังกล่าว ทำให้แต่ละจังหวัดถูกเชื่อมกันด้วยเส้นทางหลวง จากจังหวัดสู่จังหวัด และยังอาจรวมไปถึงจากจังหวัดไปสู่ตัวอำเภอต่าง ๆ อีกด้วย เส้นทางขึ้นเหนือ คือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน จากกรุงเทพฯ สู่ จังหวัดเชียงราย
นอกจากนั้นยังมี “โครงการทางหลวงเอเชีย” ที่เป็นความร่วมมือของภูมิภาค เพื่อที่จะพัฒนาการเชื่อมโยง เมืองหลวง เมืองอุตสาหกรรม ท่าเรือ สถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งการค้าสำคัญด้วยกัน ประเทศที่เกี่ยวข้องได้แก่ กัมพูชา ไทย เนปาล บังกลาเทศ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม ศรีลังกา ลาว อัฟกานิสถาน อินเดีย อินโดนีเซีย และอิหร่าน ความร่วมมือเกิดจาก คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจสำหรับเอเชีย และตะวันออกไกล (ECAFE ปัจจุบันคือ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ESCAP) ในปี 2502 ต่อมาจีน พม่าและมองโกเลียได้ร่วมโครงการในปี 2531-2533 ทางหลวงเอเชียที่ผ่านประเทศไทยสายประธานที่เกี่ยวกับภาคเหนือมี 3 สายนั่นคือ
- สาย A-1 เริ่มจากเขตแดนพม่า อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เลี้ยวไปบรรจบกับ ทางหลวงหมายเลข 1 ที่ตาก แล้วลงไปยังนครสวรรค์
- สาย A-2 เริ่มจากเขตแดนพม่า อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เข้าเชียงรายแล้วลงมาตามทางหลวงหมายเลข 1 ซึ่งผ่านจังหวัดลำปาง
- สาย A-3 เริ่มจากแยกสาย A-2 ที่เชียงราย ออกไปตามทางหลวงหมายเลข 1020 เพื่อเลี้ยวไปจดเขตแดนลาว ที่ อำเภอเชียงของ
ขณะที่ทางหลวงหมายเลขที่ 11 ที่เชื่อมลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่ ตัดผ่านในต้นทศวรรษ 2510
จังหวัดลำปางอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 600 กิโลเมตร จากเส้นทางสายเอเชีย (ถนนพหลโยธิน) ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์กำแพงเพชร ตาก เข้าสู่ลำปาง ถนนเป็นถนนสี่เส้นทางการจราจรตลอดทาง หรือใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 แยกจากถนนพหลโยธิน ที่จังหวัดนครสวรรค์ ผ่านพิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ เข้าสู่ลำปาง สิ้นสุดปลายทางที่เชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางรถส่วนตัวประมาณ 7-8 ชั่วโมง
การเดินทางภายในจังหวัด
การขนส่งมวลชนเพื่อเดินทางภายในจังหวัดมีรถให้บริการที่คนลำางเรียกกันว่า “รถสี่ล้อ” แบ่งเป็น 2 ประเภท
- รถสี่ล้อ (รถสองแถว) สีเหลือง-เขียว เส้นทางภายในตัวเมือง สังกัดสหกรณ์เดินรถนครลำปาง จำกัด
- รถสี่ล้อ (รถสองแถว) สีน้ำเงินและสีฟ้า เส้นทางระหว่างอำเภอ สังกัดสหกรณ์เดินรถนครลำปาง จำกัด
รถโดยสารประจำทางระหว่างต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานคร
รถประจำทางจากกรุงเทพฯ-ลำปาง สามารถเดินทางได้จาก สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) มีรถให้เลือกหลายบริษัทหลายระดับ ขณะที่การเดินทางออกจากลำปาง ใช้สถานีขนส่งจังหวัดลำปาง สังกัดเทศบานครลำปาง ณ ถนนจันทรสุรินทร์ ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมืองลำปาง โดยรถประจำทางมีเส้นทางเดินรถดังนี้
สายกรุงเทพฯ
- สาย 1 กรุงเทพ-เชียงใหม่ (ก) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บลูไนน์ (กรีนบัส)
- สาย 13 กรุงเทพ-ฝาง-บ้านท่าตอน (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-เชียงใหม่-แม่ริม-ฝาง-แม่อาย-บ้านท่าตอน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. นิววิริยะยานยนต์ทัวร์
- สาย 18 กรุงเทพ-เชียงใหม่ (ข) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. นครชัยแอร์ สมบัติทัวร์ บางกอกบัสไลน์ สยามเฟิร์สทัวร์ พรพิริยะทัวร์ วิริยะทัวร์ นิววิริยะยานยนต์ทัวร์ ศรีทะวงศ์ทัวร์ ลิกไนท์ทัวร์ เชิดชัยทัวร์ แอมบาสเดอร์ทัวร์ อินทราทัวร์
- สาย 90 กรุงเทพ-เชียงราย (ก) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-ตาก-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์ สมบัติทัวร์ บางกอกบัสไลน์ สยามเฟิร์สทัวร์ เชิดชัยทัวร์
- สาย 91 กรุงเทพ-ลำปาง (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. สมบัติทัวร์ สยามเฟิร์สทัวร์ พรพิริยะทัวร์ นิววิริยะยานยนต์ทัวร์ เชิดชัยทัวร์ นครชัยแอร์ วิริยะทัวร์
- สาย 924 กรุงเทพ-ลำพูน (ก) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. เชิดชัยทัวร์
- สาย 964 กรุงเทพ-ดอยเต่า-จอมทอง (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-เถิน-ลี้-ดอยเต่า-จอมทอง) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส.
- สาย 9911 กรุงเทพ-ลำพูน (ข) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-เถิน-ลี้-ลำพูน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส.
สายภาคกลาง
- สาย 114 นครสวรรค์-เชียงใหม่ (นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครสวรรค์ยานยนต์ (ถาวรฟาร์ม)
- สาย 155 พิษณุโลก-เชียงใหม่ (สายเก่า) (พิษณุโลก-สุโขทัย-ตาก-เถิน-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์ ศรีทะวงค์ทัวร์
- สาย 132 พิษณุโลก-เชียงใหม่ (สายเก่า) (พิษณุโลก-สุโขทัย-สวรรคโลก-ทุ่งเสลี่ยม-เถิน-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์
- สาย 623 พิษณุโลก-เชียงใหม่ (สายใหม่) (พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์
สายตะวันออก
- สาย 659 ระยอง-พัทยา-เชียงใหม่ (ระยอง-พัทยา-ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-สระบุรี-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์
- สาย 660 ระยอง-เชียงราย-แม่สาย (รถด่วนพิเศษ VIP) (ระยอง-พัทยา-ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-สระบุรี-นครสวรรค์-ตาก-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย-แม่สาย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์
สายตะวันออกเฉียงเหนือ
- สาย 175 ขอนแก่น-เชียงใหม่ (สายเก่า) (ขอนแก่น-ชุมแพ-หล่มสัก-พิษณุโลก-สุโขทัย-ตาก-เถิน-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ อีสานทัวร์ ภูหลวงทรานสปอร์ต
- สาย 587 อุบลราชธานี-เชียงใหม่ (อุบลฯ-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์-บัวใหญ่-ชัยภูมิ-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์
- สาย 633 ขอนแก่น-เชียงใหม่ (สายใหม่) (ขอนแก่น-ชุมแพ-หล่มสัก-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ อีสานทัวร์ สมบัติทัวร์
- สาย 635 นครราชสีมา-เชียงใหม่ (นครราชสีมา-สีคิ้ว-โคกสำโรง-ตากฟ้า-เขาทราย-วังทอง-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยทัวร์
- สาย 636 เชียงใหม่-อุดรธานี (อุดรธานี-หนองบัวลำภู-วังสะพุง-เลย-ภูเรือ-ด่านซ้าย-นครไทย-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ จักรพงษ์ทัวร์ อ.ศึกษาทัวร์
- สาย 874 เชียงใหม่-ขอนแก่น-อุบลราชธานี (เชียงใหม่-ดอยติ-ลำปาง-เด่นชัย-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-หล่มสัก-ชุมแพ-ขอนแก่น-โกสุมพิสัย-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-เสลภูมิ-ยโสธร-คำเขื่อนแก้ว-เขื่องใน-อุบลราชธานี) บริษัท เพชรประสริฐ จำกัด
- สาย 876 เชียงใหม่-นครพนม (เชียงใหม่-ดอยติ-ลำปาง-เด่นชัย-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-เลย-หนองบัวลำภู-อุดรธานี-สว่างแดนดิน-พังโคน-สกลนคร-นครพนม) บริษัท เพชรประเสริฐ จำกัด
สายใต้
- สาย 779 ภูเก็ต-เชียงใหม่ (ภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี-ชุมพร-ประจวบฯ-หัวหิน-ชะอำ-เพชรบุรี-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 871 เชียงใหม่-หัวหิน (เชียงใหม่-ลำปาง-ตาก-นครสวรรค์-ชัยนาท-อู่ทอง-นครปฐม-ราชบุรี-เพชรบุรี-หัวหิน) บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด
สายตะวันตก
- สาย 875 เชียงใหม่-กาญจนบุรี (เชียงใหม่-ลำปาง-ตาก-กำแพงเพชร-นครสวรรค์-ชัยนาท-สุพรรณบุรี-กาญจนบุรี) บริษัท ศศนันท์ ทรานสปอร์ต จำกัด
สายเหนือ
- สาย 144 ลำปาง-แพร่ (ลำปาง-ม.ราชภัฏลำปาง-แม่ทะ-แม่แขม-ลอง-แพร่) บริษัท นครลำปางเดินรถ จำกัด (รถตู้ปรับอากาศ)
- สาย 145 ลำปาง-เชียงใหม่ (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ห้างฉัตร-ลำปาง) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 146 ลำปาง-เชียงราย (ลำปาง-งาว-พะเยา-แม่ใจ-พาน-เชียงราย) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 147 เชียงใหม่-พาน (เชียงใหม่-ลำปาง-งาว-พะเยา-แม่ใจ-พาน) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 148 เชียงใหม่-ลำปาง-เชียงราย (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 149 เชียงใหม่-ลำปาง-แม่สาย (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย-แม่จัน-แม่สาย) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 167 ลำปาง-เชียงราย (ลำปาง-แจ้ห่ม-วังเหนือ-เวียงป่าเป้า-แม่สรวย-เชียงราย) บริษัท นครลำปางเดินรถ จำกัด
- สาย 169-2 เชียงใหม่-น่าน-ทุ่งช้าง (เชียงใหม่-ลำปาง-เด่นชัย-แพร่-ร้องกวาง-น่าน-ปัว-เชียงกลาง-ทุ่งช้าง) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 672 แม่สาย-แม่สอด (แม่สาย-แม่จัน-เชียงราย-เวียงป่าเป้า-เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-เถิน-บ้านตาก-ตาก-แม่สอด) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 673 แม่สาย-แม่สอด (แม่สาย-แม่จัน-เชียงราย-พะเยา-ม.พะเยา-อ.งาว-ลำปาง-อ.เถิน-อ.บ้านตาก-ตาก-แม่สอด) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 1661 เชียงใหม่-ลำปาง-เชียงราย-สามเหลี่ยมทองคำ (ข) (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย-แม่จัน-เชียงแสน-สามเหลี่ยมทองคำ) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 1693 ลำปาง-แพร่ (ลำปาง-แม่แขม-เด่นชัย-สูงเม่น-แพร่) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส) (รถตู้ปรับอากาศ)
ทางรถไฟ
เริ่มมีการเดินรถไฟครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายน 2459 ณ สถานีรถไฟนครลำปาง
สถานีรถไฟ
ศูนย์กลางอยู่ที่สถานีรถไฟนครลำปาง ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมืองลำปาง สถานีรถไฟนครลำปาง เปิดใช้งาน 1 เมษายน 2459 รองรับ ขบวน รถรวม พิษณุโลก – ลำปาง และ อุตรดิตถ์ – ลำปาง ก่อนมีรถด่วน สายเหนือตรงจากกรุงเทพ ขึ้นมาทำขบวนเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2465
พ.ศ. 2506 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดส่งหัวรถจักรไอน้ำมาแสดงไว้ที่สถานีรถไฟลำปาง และกำหนดให้สถานีรถไฟแห่งนี้เป็นสถานีประวัติศาสตร์ และทำการอนุรักษ์ไว้ รูปแบบสถาปัตยกรรมของสถานีรถไฟลำปางเป็นอาคาร 2 ชั้น ก่ออิฐฉาบปูน ผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีปีก 2 ข้างเชื่อมกับโถงกลาง รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบอาณานิคม มีการใช้โค้ง (arch) และการประดับตกแต่งด้วยไม้ฉลุ และปูนปั้น พื้นที่ของสถานีรถไฟนครลำปาง มีประมาณ 161 ไร่ มีตัวอาคารสถานี คลังสินค้า พื้นที่เก็บหัวรถจักรและตัวรถไฟ รวมถึงพื้นที่บ้านพักพนักงาน อาคารสถานีดังที่เห็นในปัจจุบันได้ผ่านการต่อเติมมาเป็นบางส่วน โดยเฉพาะช่วงก่อนปีพ.ศ. 2520 มีการต่อเติมส่วนควบคุมบริเวณปีกทางทิศใต้ ส่วนพักคอยด้านติดรางรถไฟ และ ซุ้มด้านหน้าที่จอดรถ จากนั้นมีการเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา กระเบื้องพื้น และปรับปรุงพื้นชั้นล่างทั้งหมดในปี พ.ศ. 2538