การ เช่ารถบรรทุกเทรลเลอร์ รถที่เรามักจะคุ้นเคยกับชื่อที่เรียกว่า รถบรรทุก หรือรถพ่วง รถที่ใช้ในงานจำพวกงานก่อสร้างที่ทำหน้าที่ขนพวกอุปกรณ์ขนาดใหญ่ วัสดุก่อสร้าง หิน ดิน ทราย ปริมาณมากจึงทำให้ต้องใช้รถที่สามารถบรรทุกไปได้ ทำให้ต้องใช้รถเทรลเลอร์ในการขน และรถบรรทุกรับจ้าง รถเทรลเลอร์ รับจ้าง รถหกล้อขนของ
รถบรรทุกเทรลเลอร์นครราชสีมา
รถเทเลเลอร์รับจ้างนครราชสีมา
รถเทเลอร์รับจ้างนครราชสีมา
รถบรรทุกรับจ้างนครราชสีมา
รถเทรลเลอร์รับจ้างนครราชสีมา
รถเทรลเลอร์หัวลากนครราชสีมา
รถเทรลเลอร์6ล้อมือสองนครราชสีมา
รถเทรลเลอร์12ล้อนครราชสีมา
รถพ่วงเทรลเลอร์นครราชสีมา
รถรับจ้างบรรทุกเทรลเลอร์นครราชสีมา
รถ6ล้อขนของนครราชสีมา
รถขนของ6ล้อนครราชสีมา
รถหกล้อขนของนครราชสีมา
รถพ่วงรับจ้างนครราชสีมา
รถเฮี๊ยบให้เช่าราคาถูกนครราชสีมา
รถบรรทุก6ล้อรับจ้าง
จ้างรถ6ล้อนครราชสีมา
รถบรรทุกรับจ้างขนของ
รถบรรทุกรับจ้าง10ล้อนครราชสีมา
รถสิบล้อเฮี๊ยบนครราชสีมา
รถบรรทุกเล็กรับจ้างนครราชสีมา
รถบรรทุกย้ายบ้านนครราชสีมา
รถบรรทุกให้เช่านครราชสีมา
รถบรรทุกย้ายของนครราชสีมา
รถรับจ้างขนของ10ล้อนครราชสีมา
สอบถามคิวรถ






รู้ก่อนใช้บริการ ประเภทของรถเครน มีกี่ประเภท แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร
1. รถเครน คืออะไร
เรามาทำความรู้จักรถเครนกันก่อนน่ะครับ เครน หรือจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าปั้นจั่น ซึ่งหมายถึง เครื่องจักรกลที่ใช้ยกสิ่งของขึ้นลงตามแนวดิ่ง และเคลื่อนย้ายสิ่งของในลักษณะแขวนลอยไปตามแนวราบ ซึ่งเหมาะในการใช้งาน ที่ต้องใช้งานในที่สูงๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้เอง ถึงขีดจำกัดของคนที่สามารถจะทำได้ จำเป็นต้องมีตัวช่วย อย่างรถเครนเป็นตัวช่วยที่ช่วยได้ดีมาก หากงานที่ต้องใช้พื้นที่สูงๆ ไม่มีตัวช่วยไหน ที่เหมาะไปกว่ารถเครนอีกแล้วครับ
โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า รถเครนนั้นเหมาะใช้งานในการก่อสร้าง ซึ่งมันก็ใช่ครับ แต่รถเครนนั้นยังสามารถใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกมาก อย่างเช่น ใช้งานในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุการณ์ต่างๆ ได้ ใช้งานด้านการแสดงหนังหรือละครต่างๆ เพื่อได้มุมภาพสวยๆ สร้างจุดขายของการแสดง แม้แต่ใช้ในการทำความสะอาดอาคารสูงๆ เองก็ตาม ก็ยังสามารถใช้ประโยชน์ยังได้เลยครับ และยังใช้งานในด้านอื่นๆ อีกมากมาย
2. รถเครนมีกี่ประเภท
รถเครนจะมีอยู่ด้วยกัน 5 ประเภท ได้แก่
รถเครนบรรทุก ( Truck Crane) จะมีลักษณะคล้ายๆ รถบรรทุกเลยครับ แม้บางคันจะมีลักษณะที่แตกต่างกันไปบ้าง หากถามว่ามีความแตกต่างยังไงกับเครนติดรถบรรทุก ซึ่งตอบได้เลยว่า จะเป็นรถบรรทุกเช่นกันครับ สามารถแยกข้อแตกต่างได้ง่ายๆ ให้สังเกตุตรงที่เครนที่ติดอยู่บนรถบรรทุก หากมีเครนมีขนาดใหญ่ และเครนสามารถยืดได้ยาวอีก จะเป็นรถเครนประเภท รถเครนบรรทุก และหากมีเครนที่มีขนาดเล็ก หรือไม่สามารถยืดได้ยาวอีก จะเป็นประเภท เครนติดรถบรรทุกครับ
รถเครนสองประเภทนี้ ถึงแม้จะใช้รถบรรทุกที่มีลักษณะที่คล้ายๆ กัน แต่เปรียบเทียบด้านการใช้งานแล้ว จะมีลักษณะการใช้งานจะแตกต่างกันครับ ซึ่งรถเครนบรรทุกจะชำนาญด้านการใช้งานด้านความสูง ส่วนเครนติดรถบรรทุก จะชำนาญการขนส่งสินค้ามากกว่าครับ
รถบรรทุกจะมีอยู่หลายแบบ เช่น 6 ล้อ , 10 ล้อ ,12 ล้อ แน่นอนว่าขนาดเครนที่อยู่ด้านบน จะมีขนาด และข้อจำกัดในการใช้งานที่แตกต่างกัน ส่วนการขับเคลื่อนนั้น จะมีลักษณะเหมือนรถบรรทุกทั่วไป ซึ่งจะเหมาะการขับเคลื่อนบนถนนเรียบ สามารถวิ่งตามงานต่างๆ ได้ครับ
2.2 รถเครนตีนตะขาบ
รถเครนตีนตะขาบ (Crawler Crane) หากสังเกตดีๆ จะเห็นได้ว่ามีลักษณะคล้ายกับรถแม็คโครที่ใช้ตักดิน เป็นอย่างมากแต่รถเครนตีนตะขาบจะความแตกต่างจากรถแม็คโครคือส่วนแขนบูมและตะขอของรถเครน ส่วนอื่นๆ จะมีความคล้ายรถแม็คโครอยู่บ้าง และเมื่อเปรียบเทียบรถเครนประเภทอื่นๆ แล้วจะเห็นได้ว่ารถเครนตีนตะขาบจะมีลักษณะเด่นๆ ที่เห็นได้ชัดส่วนของตีนตะขาบแหละครับ ส่วนรถเครนประเภทอื่นส่วนใหญ่จะเป็นล้อยางครับ
ถ้ามองในมุมการใช้งานแล้ว รถเครนตีนตะขาบสามารถเข้าถึงทุกสภาพพื้นที่ แม้พื้นที่จะมีเนิน พื้นที่ไม่เท่ากัน ถ้าเป็นรถเครนประเภทอื่นจะทำงานค่อนข้างลำบากหน่อย แต่รถเครนตีนตะขาบไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเขาอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่รถเครนประเภทนี้ด้อยกว่ารถเครนประเภทอื่นคือ ระยะการเดินทาง สามารถเดินไกลได้แค่ 100 – 500 เมตร หากจะอยากจะไประยะทางที่ไกลกว่านั้นจำเป็นต้องมีตัวช่วยอย่างเทรลเลอร์หาง low – bed สำหรับขนส่งในระยะทางไกลครับ
2.3 รถเครน 4 ล้อ
รถเครน 4 ล้อ (Rough terrain cranes) จะมีลักษณะคล้ายกับรถเครนแบบรถเครนบรรทุก (Truck Crane) แต่จะมีล้อเพียง 4 ล้อ(ใหญ่) เท่านั้น ลำตัวของรถเครน 4 ล้อ จะสั้นกว่ารถเครนบรรทุกมาก และแขนเครนนั้นจะยาวกว่าลำตัว สามารถจำได้ง่ายๆ ของส่วนของล้อ หากเจอรถเครนที่มี 4 ล้อ นั้นแหละเป็นประเภทรถเครน 4 ล้อครับ
หากพูดถึงด้านการใช้งาน รถเครน 4 ล้อ สามารถขับเคลื่อนบนพื้นดินอ่อนได้ แต่พื้นดินอ่อนมากเกินไปก็ไม่สามารถวิ่งได้ครับ รถเครนประเภทนี้ สามารถวิ่งผ่านในที่ซอกแซกเข้าพื้นที่แคบๆ ได้ดีเลยครับ ส่วนระยะทางที่วิ่งได้ ประมาณ 10 กิโลเมตร หากมากกว่านั้น จะส่งผลส่วนของชุดเกียร์ได้ อาจถึงพังได้เลยครับ ถ้าจำเป็นที่ต้องไประยะทางไกลกว่า 10 กิโลเมตร จำเป็นต้องมีตัวช่วยในการขนส่ง ขนย้ายอย่างรถเทรลเลอร์ low-bed สามารถแก้ปัญหาขีดจำกัดระยะทางของรถเครน 4 ล้อได้ครับ
2.4 เครนติดรถบรรทุก
เครนติดรถบรรทุก (Truck Loader Crane หรือ cargo crane) ในภาษาชาวบ้านจะเรียกว่า รถเฮี๊ยบ จะมีลักษณะเหมือนรถบรรทุกทั่วไปเลยครับ แต่จะมีเครนขนาดเล็กติดอยู่ด้านหลังของรถ เครนในรูปแบบนี้จะถูกออกแบบไว้สามารถติดตั้งบนรถบรรทุกได้ทุกรุ่นเลยครับ รถเครนประเภทนี้ใช้สำหรับการขนส่ง และบรรทุกสินค้าเท่านั้น ไม่สามารถทำเหมือนรถเครนประเภทอื่นๆ ได้ครับ
ถ้าพูดด้านการใช้งานแล้ว ซึ่งผมบอกไปแล้วน่ะครับว่า รถเครนประเภทนี้เหมาะสำหรับการขนส่ง และบรรทุกสินค้าเท่านั้น สามารถยกของจากท้ายรถบรรทุกลงไปจากรถ หรือยกขึ้นมาที่ท้ายรถได้ ส่วนของระยะทางนั้น สามารถขนส่งในระยะทางไกลๆ ได้ครับ ขนส่งได้รวดเร็ว ด้วยขนาดเครนติดรถบรรทุกไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก สามารถเดินทางได้สะดวกครับ
2.5 รถเครนแบบ All Terrain Cranes
รถเครนแบบ ( All Terrain Cranes ) จะเป็นรถเครนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดารถเครนทั้งหลายเลยครับ หากเปรียบเทียบกับรถเครนบรรทุก รถเครนประเภทนี้จะใหญ่กว่าครับ ซึ่งจะมีมากกว่า 12 ล้อด้วยซ้ำ และความสามารถด้านการทำงานก็จะเหนือกว่า อย่างเช่น ขีดจำกัดความสูง หรือความแข็งแรงแขนเครน พูดง่ายๆ คือรถเครนประเภทนี้จะมีประสิทธิภาพมากกว่าครับ
ส่วนเรื่องการใช้งานนั้น สามารถทำงานได้หลายรูปแบบ แถมมีประสิทธิภาพมากกว่า รถเครนประเภทอื่นๆ อีกครับ แม้จะเป็นงานแบบไหนก็สามารถทำได้แน่นอนครับ พื้นที่จะขรุขระ สมบุกสมบัน มีล้อมากกว่า และขับเคลื่อนทุกล้อ เพราะรถคันใหญ่จึงมีปัญหาเรื่องเลี้ยวมุมแคบยาก ระยะการเดินทางได้ไกลไม่มีข้อจำกัดครับ
3.สรุป
รถเครนแต่ละประเภทจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน อาจมีบางส่วนที่คล้ายๆ อยู่บ้าง แต่สามารถแยกออกได้ว่า รถเครนแต่ละประเภทเป็นยังไง แยกออกได้ไม่อยากเลยครับ ถ้าหากสังเกตุเห็นดีๆ เพราะแต่ละประเภทจะมีจุดเด่น และข้อจำกัดในการใช้งานที่แตกต่างกัน พยายามเลือกใช้ให้เหมาะกันงานที่จะทำให้ได้มากที่สุด และให้คุ้มค่าที่สุด คุณสามารถเลือกเองได้ไม่ยากครับ ซึ่งเนื้อหาที่ผมได้เตรียมเอาไว้ จะพูดในเรื่อง ประเภทของรถเครน เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งผมได้แยกแยะแล้วว่า รถเครนแต่ละประเภทเป็นในลักษณะใด จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น พยายามศึกษาดูน่ะครับ แน่นอนว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคุณได้แน่นอนครับ
สอบถามคิวรถ






การคมนาคม
ทางอากาศ
-วันที่ 2 กันยายน 2554 ที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา บริษัท Thai Regional Aviation จำกัด ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน สุวรรณภูมิ-โคราช-สุวรรณภูมิ บริษัทเลือกใช้เครื่องบินรุ่น Piper Navajo Chieftain ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ได้รับความนิยมสูง และ มีความปลอดภัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที
-วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 สายการบิน กานต์แอร์ ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน จาก ท่าอากาศยานเชียงใหม่ – ท่าอากาศยานนครราชสีมา โดยทำการบิน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ( จันทร์,พุธ,พฤหัสบดี,เสาร์ ) โดยใช้เครื่องบินรุ่น ATR-72 (ปัจจุบันหยุดให้บริการในสายนี้แล้ว)
รถยนต์
จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ มายังจังหวัดนครราชสีมาได้หลายเส้นทาง คือ
รถโดยสารประจำทาง
- เดินทางจากกรุงเทพฯ
มีรถโดยสารธรรมดา และ รถปรับอากาศชั้น 1 ชั้น 2 และรถตู้ปรับอากาศ สาย 21 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา) วิ่งให้บริการจาก สถานีขนส่งหมอชิต 2 กรุงเทพฯ มายังจังหวัดนครราชสีมา ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีบริษัทเอกชน ที่ได้รับสัมปทานเปิดบริการเดินรถโดยสารสาย 21 ดังนี้
รถปรับอากาศชั้น 1
-
-
- บริษัท ราชสีมาทัวร์ จำกัด
- บริษัท แอร์โคราชพัฒนา จำกัด
- บริษัท สุรนารีแอร์ จำกัด
รถปรับอากาศชั้น 2
-
-
รถตู้ปรับอากาศ (ไม่รับรายทาง)
-
-
ซึ่งจะให้บริการ รับ-ส่ง ผู้โดยสารที่สถานีขนส่งทั้งสองแห่ง คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 (ถนนบุรินทร์) และ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) นอกจากนั้น ยังสามารถที่จะเลือกเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ปลายทางจังหวัดต่าง ๆ ในภาคอีสานที่ผ่านจังหวัดนครราชสีมาได้
- เดินทางภายในจังหวัด
การเดินทางภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียง มีขนส่งสาธารณะให้บริการดังนี้คือ
-
-
- รถโดยสารประจำทางหมวด 1 และหมวด 4 (รถสองแถว) วิ่งบริการภายในเขตเทศบาล และ บริเวณใกล้เคียง รถโดยสารหมวด 1 แบ่งออกเป็น 21 สาย วิ่งบริการภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียงไปตามเส้นทางต่าง ๆ
- รถจักรยานยนต์รับจ้าง, รถสามล้อเครื่อง และรถสามล้อ วิ่งให้บริการผู้โดยสารภายในเขตตัวเมือง
- รถแท็กซี่มิเตอร์ (Taxi Meter) เปิดให้บริการในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 24 เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550 เป็นจังหวัดแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจุดจอดรถแท็กซี่อยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 และศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้บริการโดยโทรศัพท์เลขหมายด่วน ปัจจุบันมีรถให้บริการทั้งสิ้นจำนวน 70 คัน
ถ้าต้องการเดินทางไปต่างอำเภอ จะมีรถโดยสารประจำทางหมวด 4 ให้บริการไปยังอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา หลายสายด้วยกัน สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งแห่งที่ 1 ถนนบุรินทร์ มีทั้งประเภทรถสองแถว และ รถบัสโดยสารประจำทางให้บริการ จะมีรถโดยสารไป อำเภอปักธงชัย อำเภอประทาย อำเภอด่านขุนทด อำเภอปากช่อง อำเภอสูงเนิน สำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 นั้น จะมีรถโดยสาร ไปเฉพาะ อำเภอพิมาย และ ด่านเกวียน, อำเภอโชคชัย
- เดินทางระหว่างจังหวัด
มีทั้งรถโดยสารประจำทางธรรมดา และปรับอากาศ หมวด 2 และ 3 จำนวนหลายเส้นทางในจังหวัดต่าง ๆ วิ่งให้บริการผ่านจังหวัดนครราชสีมาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) ทุกวัน
นอกจากนี้ มีรถโดยสารประจำทาง ให้บริการรับส่งผู้โดยสารจาก ต้นทางจังหวัดนครราชสีมา ไปยังปลายทางจังหวัดอื่น ในภาคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
-
-
- ภาคอีสาน ได้แก่
- ภาคเหนือ ได้แก่
- ภาคกลาง ได้แก่
- ภาคตะวันออก ได้แก่
- ภาคตะวันตก ได้แก่
- ภาคใต้ ได้แก่
- เดินทางระหว่างประเทศ
-
-
- กรุงเทพฯ-นครราชสีมา – นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ 900 บาท, นครราชสีมา-เวียงจันทน์ 540 บาท)
- เวลา 21.00 น. จากสถานีต้นทาง กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 23.50 น.
- เวลา 18.00 น. จากสถานีต้นทาง นครหลวงเวียงจันทน์ ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 1 นาฬิกา
- เที่ยววิ่งนอกวันและเวลาราชการ เก็บค่าทำการล่วงเวลา ของด่านตรวจคนเข้าเมืองคนละ 5 บาท โดยจัดเก็บที่สถานีเดินรถ
- เดินทางด้วยรถปรับอากาศ 2 ชั้น 32 ที่นั่ง มีสุขภัณฑ์ พนักงานต้อนรับ และอาหารว่าง
- ติดต่อสถานีเดินรถนครราชสีมา โทรศัพท์ 044-254964 หรือ 1490 เรียก บขส.
ในการเดินทางข้ามแดนจากจังหวัดนครราชสีมา ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สามารถใช้หลักฐาน คือหนังสือเดินทางคือหนังสือผ่านแดน หรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราวโดยมีแนวปฏิบัติและขั้นตอนดังต่อไปนี้
-
- 1. ใช้บัตรผ่านแดน สำหรับเดินทางเข้าประเทศลาวไม่เกิน 3 วัน 2 คืน และไม่เดินทางไปแขวงอื่น การทำบัตรผ่านแดนทำที่ศาลากลางจังหวัดที่มีชายแดนติดกับลาวโดยใช้หลักฐาน ดังนี้
- รูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรจริง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- ค่าธรรมเนียม
- หากยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องใช้สำเนาสูติบัตรด้วย
- 2. การขอวีซ่า
- ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการของไทยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ในประเทศลาวได้ 30 วัน
- สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาต้องขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำประเทศไทยที่กรุงเทพฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่จังหวัดขอนแก่นโดยต้องใช้รูปถ่าย 1 รูป และเสียค่าธรรมเนียม 30 ดอลลาร์สหรัฐ
- สถานีขนส่งผู้โดยสาร
จังหวัดนครราชสีมา มีสถานีขนส่งผู้โดยสารที่ให้บริการแก่ผู้ที่ต้องเดินทางไปยังอำเภอ หรือ จังหวัดต่างๆ ดังนี้
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 ตั้งอยู่เลขที่ 86 ถนนบุรินทร์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 7 ไร่ 2 งาน 98 ตารางวา เปิดใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 บริหารจัดการโดยเทศบาลนครนครราชสีมา ใช้เป็นสถานีขนส่งภายในจังหวัดเป็นหลัก และมีรถโดยสารปรับอากาศ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ให้บริการ ประกอบไปด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 24 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 6,194 ตารางเมตร
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 1 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2,000 เที่ยว/วัน หรือประมาณ 730,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 50,000 คน/วัน หรือประมาณ 18,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่ ถนนมิตรภาพ-หนองคาย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ 29 ไร่ 50 ตารางวา เป็นสถานีขนส่งฯที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่ง คือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด ใช้เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารระหว่างจังหวัดเป็นหลักเส้นทางที่สำคัญคือ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 111 ช่องจอด พื้นที่ 17,760 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 28,416 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 250 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 1,100 คัน
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 2 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 1,300 เที่ยว /วัน หรือประมาณ 470,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 30,000 คน/วัน หรือประมาณ 11,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 12 ตำบลโชคชัย อำเภอโชคชัย มีเนื้อที่ 7 ไร่ บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2539 ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 16 ช่องจอด พื้นที่ 3,280 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 40 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 210 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน /วัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย ตั้งอยู่บริเวณตำบลในเมือง อำเภอพิมาย มีเนื้อที่ 6 ไร่ 54 ตารางวา ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่งคือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2538 ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 18 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 15 คัน และ รถจักรยานยนต์ ประมาณ 25 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 230 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน / วัน
รถไฟ
มีรถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือกรุงเทพ – อุบลราชธานีและกรุงเทพ – หนองคายทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็วและรถธรรมดาวิ่งให้บริการจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ผ่านจังหวัดนครราชสีมาทุกวัน นอกจากนี้ยังมีขบวนรถท้องถิ่นวิ่งให้บริการระหว่างสถานีรถไฟนครราชสีมาไปยังสถานีรถไฟจังหวัดอื่นๆ เช่น สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานีหนองคาย และอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรีอีกด้วย
สถานีรถไฟนครราชสีมาสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นสถานีรถไฟชั้น 1 ตั้งอยู่ที่ถนนมุขมนตรี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา อยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพเป็นระยะทาง 264 กิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยว